วิธีเอาชนะใจคน จูงใจโน้มน้าวจิตใจผู้คน เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรภาพ สร้างความสำเร็จให้ชีวิตง่ายๆ ของ Dale Carne (เดล คาร์เนกี)

 


การที่เราจะประสบความสำเร็จ การเอาชนะใจคน เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรภาพดี  จำเป็นมากที่เราจะต้องเรียนรู้จิตวิทยาแม้เพียงเล็กน้อยเราก็สามารถเอาชนะใจผู้คนได้

การเอาชนะใจคน  โดยการโน้มน้าวใจผู้คนมีบทบาทความสำคัญในชีวิตของเรามากเพราะมันเกี่ยวข้องกับความสำเร็จของเรา  ไม่ว่าคุณจะทำงานเป็นลูกจ้าง หรือคุณจะเป็นนักธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ค้าขาย หรือคุณจะทำอะไรก็แล้วแต่  ความสำเร็จของคุณล้วนแล้วเกี่ยวข้องกับผู้คน สังคม  สิ่งที่สร้างความสำเร็จให้คุณได้อย่างรวดเร็ว 


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหา เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นๆ ได้ยาก  เจอสถานการณ์จะต้องรับมือกับคนอื่นๆ เพราะในแต่ละวันคุณอาจต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเพื่อนร่วมงาน ลูกค้าของคุณ หรือแม้แต่คนในครอบครัวของคุณ ญาติของคุณ  ทุกสถานการณ์อาจมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงได้นั้น

บทความนี้ ผู้เขียนได้นำเสนอวิธีการเอาชนะใจคนและการโน้มน้าวใจคนมาเขียนเพื่อเป็นเครื่องมือให้ผู้อ่านใช้เป็นนำไปปรับใช้กับชีวิต สร้างมิตรภาพดีๆ ให้ตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางให้เราชนะใจคนอื่นได้ และการรับมือเมื่อเจอสถานการณ์ต่างจากสังคมผู้คนแวดล้อมที่เราเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะที่ทำงาน ร้านค้า หรืออื่นๆ   

ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ทำงานเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมากเนื่องจากอาชีพทนายความ และนอกจากนี้ผู้เขียนชอบการศึกษาเรียนรู้จิตวิทยาด้านพัฒนาตัวเอง ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เรารับมือกับคนอื่นเพื่อการชนะใจคนอื่นได้และเข้าใจผู้อื่นได้ง่ายขึ้น  

โดยมีวิธีการดังนี้ 

1. สิ่งแรกคุณต้องเริ่มต้นเอาชนะใจตัวเองก่อน



หากเราต้องการเอาชนะใจคนอื่นได้ เราต้องเอาชนะใจตัวเองก่อน คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราเอง พฤติกรรมต่างๆ ที่ทำลายตัวเราเอง เช่น อารมณ์ร้อน โกรธง่าย หงุดหงิดง่าย คิดในแง่ร้ายหรือคิดด้านลบ เพราะความสำเร็จของเราสิ่งแรก คือ การเอาชนะใจตัวเอง คือ เอาชนะอารมณ์ของเรา  เพราะการที่เรามีปัญหากับผู้คนหรือสร้างศัตรู หลายครั้งมาจากพฤติกรรมนิสัยของเราคะ  

ฉะนั้น เราจะต้องจัดการอารมณ์และความคิดของเราเป็นอันดับแรก ก่อนที่เราจะไปเอาชนะใจผู้อื่น โดยเริ่มจากการควบคุมจัดการอารมณ์และความคิดของเราให้ได้ไม่ว่าสถานการณ์ใดๆ จะเข้ามา  โดยฝึกฝนให้มีมุมมองด้านบวกด้านดีในชีวิตประจำวันของเรา โดยให้เริ่มต้องเราตื่นนอนสร้างอารมณ์ดี มองทุกสิ่งที่เข้ามาเป็นเรื่องราวดีๆ ในชีวิต 

 

แน่นอนเราจะต้องโต้แย้งตอบในใจของเราว่ามันเป็นไปได้ยาก เพราะฉันมีเรื่องราวมากมายที่ต้องคิด  ผู้เขียนเองก็เคยเช่นกัน แต่อาศัยการฝึกเรียนรู้พัฒนาตัวเองไปเลื่อยๆ จนเกิดความเคยชิน  การพัฒนาตัวเองต้องอาศัยเวลาครั้งแรกไม่มีใครทำได้เลย แต่ผู้เขียนเชื่อว่า หากเราตั้งใจ

ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองคุณจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้แน่นอน  ทุกความสำเร็จย่อมเริ่มจาก้าวแรกเสมอ ให้เราค่อยๆ ฝึกฝนนิสัยของเราเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน เช่น เคยพูดแต่ด้านไม่ดีหรือโกรธง่ายในเวลาเช้า เราก็บอกตัวเองตั้งแต่ตื่นนอน ว่า ฉันโชคดี วันนี้ฉันจะพูดแต่เรื่องดี ฉันจะมีแต่สิ่งดีๆ  เริ่มฝึกพูดด้านบวกๆ ให้ตัวเอง

เพราะฉะนั้น หากวันนี้  คุณมีหลายเรื่องราวเข้ามา มีปัญหาในชีวิตต้องจัดการ  วิธีการจัดการ  คุณจะตั้งสติ ตั้งมือรับกับเรื่องราวเหล่านั้น 

สิ่งที่คุณต้องตั้งสติและตั้งรับได้ดีที่สุด  คือ  ความรู้สึกตัว  ตามคำสอนหลักธรรมในศาสนาของเรานั้นเองช่วยเราได้เยอะ การมีสติ  เมื่อไรก็ตามที่เรา มีสติ เราย่อมเกิดความรู้เนื้อรู้ตัว รู้เท่าทันด้านอารมณ์ของตัวเราเอง  และเราสามารถควบคุมอารมณ์ของเราให้ดีขึ้นได้ เมื่อเราอารมณ์ไม่ดี สติจะส่งผลให้อารมณ์โกโมโหที่ร้อนลดความรุนแรงลงได้


ตัวอย่างเช่น เรากำลังโกรธ   หากเรามีสติและรู้สึกตัว  เราจะลดความโกรธลงได้ และหากเรารู้ตัวว่าเรากำลังอารมณ์เสียหงุดหงิดไม่ว่าเรื่องใดๆ  มันจะช่วยให้เราลดความหงุดหงิดลงได้ มันจะเป็นเครื่องมือช่วยทำให้สามารถใช้เหตุผล และตัดสินใจได้ดีขึ้น เราก็จะแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้ดีขึ้น


วิธีการฝึกมีสติที่ง่ายสุดๆ ผู้เขียนนำมาฝาก 


คือ การรับรู้ลมหายใจเข้าออกถือว่า  เป็นการทำสมาธิให้อารมณ์และจิตใจของเรากลับเข้าสู่ภาวะสงบ ซึ่งควรเริ่มทำในท่านอนจนทำได้แล้ว ค่อยขยับมาทำท่านั่งและยืน จนเป็นนิสัย  และทำให้การหายใจที่ผ่อนคลาย

การหายใจมีหลากหลายแตกต่างกันออกไป วิธีง่ายๆ ขั้นพื้นฐาน ได้แก่  หายใจเข้าออก และใช้คำภาวนา เช่น พุท-เข้า โธ-ออกหรือ พองหนอ-ยุบหนอเป็นต้น  หรือการนั่งสมาธิ หรือการมีสติอยู่กับปัจจุบันนั่นเอง

2. รับมือกับคนอื่นๆ หลีกเลี่ยงการวิจารณ์และตัดสินคนอื่น


การที่เราจะเอาชนะใจคนอื่นได้ เราจะต้องเรียนรู้วิธีในการรับมือกับผู้อื่น นั้นก็คือ การหลีกเลี่ยงพูดถึงคนอื่น การวิจารณ์และการตัดสินคนอื่นด้วยความคิดเห็นของเราเอง หรือแม้แต่การไม่ควรโทษหรือบ่น ไม่ใส่ร้าย ไม่ดูหมิ่นคนอื่น แต่เราควรศึกษาผู้คน ทำความเข้าใจและค้นหาเหตุผลที่คนเหล่านั้นทำ  หาคำตอบว่าทำไมเขาทำแบบนั้น มีมุมมองเข้าใจเหตุผลของผู้อื่น ทุกๆ คนย่อมมีเหตุผลของตัวเองอยู่เบื้องหลังเสมอ การเข้าใจผู้อื่นเพื่อนำมาซึ่งการสนับสนุนและแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เราสามารถแสดงความเข้าใจ สงสาร อดทนและใจกว้าง มีน้ำใจต่อคนอื่น 

โดยทั่วไปเรามักชอบให้คนอื่นปฏิบัติดีกับเรา ผู้อื่นก็เช่นเดียวกันปรารถนาให้เราปฏิบัติดีต่อเขาเช่นกัน ฉะนั้น  การเอาชนะใจคนอื่นได้  เราจะต้องรู้ทันอารมณ์ของตัวเอง โดยเป็นผู้ฉลาดทางอารมณ์  ก็คือ การรู้จักบังคับและควบคุมอารมณ์ของตัวเราเอง รู้ทันอารมณ์ผู้อื่นเพื่อลดหรือหลีกเลี่ยงการแสดงความเห็นในแง่ลบ


หากเราต้องการให้ผู้อื่นเปลี่ยนแปลงความคิดเพื่อเรา   เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของใครได้   โดยเฉพาะยิ่งหากเราวิจารณ์หรือการตัดสินผู้อื่นที่มีความคิดไม่เห็นด้วยกับเรา  พวกเขาหรือผู้คนที่เราต้องการเอาชนะใจคนเหล่านั้นจะมีแรงผลักดันโต้กลับเราทันที   การโต้กลับของผู้คนไม่ใช่เหตุผล แต่มันคืออารมณ์แสดงออกเวลาที่ถูกคนอื่นวิจารณ์  ผู้คนมักจะรับฟังด้วยอารมณ์มากกว่าใช้เหตุผล  หากฟังแล้วรู้สึกไม่ดีหรืออารมณ์แย่  แน่นอนความรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกทำร้าย มันเป็นการแสดงออกทางธรรมชาติที่จะต้องป้องกันตัวเอง และหาทางตอบโต้ 

การพูดถึงคนอื่น  วิจารณ์ไม่ว่าจะเรื่องแบบไหนเป็นเรื่องง่าย  เป็นเรื่องสนุกสำหรับผู้พูด  แต่มันทำลายมิตรภาพระยะยาวมันจะทำให้คนอื่นชอบเราน้อยลง  ดังนั้น  หากเราจะชนะใจคน เราจึงควรทำความเข้าใจ และให้อภัยคนอื่นในเวลาที่เขาทำผิดพลาดหรือมองข้ามเรื่องนั้นไป

เราจะโน้มน้าวใจคนอื่น คุณต้องเข้าใจปัญหาและเข้าใจคนอื่น  เพราะในแต่ละวันเราอาจต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับคนอื่นๆ ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง เครื่องมือสำคัญ คือ อารมณ์ของคุณเป็นแนวทางให้คุณเอาชนะใจคนอื่นได้   ++วิธีชนะมิตรและจูงใจคนหัวใจสำคัญคือ อารมณ์ของคุณ  !!!

 

3. การยอมรับความต้องการของคนอื่น



หากเรารู้ความต้องการของผู้อื่น มันจะช่วยให้เรารับมือผู้คนได้ และมันจะทำให้คุณชนะใจคนอื่นได้งาย  ฉะนั้น  การรู้ความต้องการของผู้อื่นเป็นเรื่องที่เราต้องเปิดกว้างยอมรับและเข้าใจผู้คน  เราแต่ละคนต่างมีความต้องการพื้นฐานหลายอย่างไม่เหมือนกันเพราะครอบครัวเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน การศึกษา วัฒนาธรรม ประเพณี  เช่น ผู้คนแต่ละคนล้วนแล้ว ต้องการมีสุขภาพดี  มีชีวิตที่สุขสบาย  ทุกคนอยากมีชีวิตยืนยาว การได้กินดีอยู่ดี การได้นอนหลับฝันดี มีเงินใช้ และการเป็นคนสำคัญ  หากเราเข้าใจและยอมรับความต้องการของผู้คน   เราย่อมได้รับการนับถือของคนในสังคม

ผู้เขียนเชื่อว่า  ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากแรงขับเคลื่อนแรงผลักดันที่สำคัญของคนเรา  คือ การเป็นที่ยอมรับในสังคม เราต่างก็ชอบให้คนอื่นชม  เราต้องการให้ผู้คนมองว่าด้านดี  ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ

คุณสามารถลองฝึกพูดคำชมหรือคำขอบคุณที่จริงใจให้กับผู้คนในสังคม เช่น เพื่อนร่วมงาน ลูกค้าของคุณ  หรือคนในครอบครัวของคุณ ทดสอบลองฝึกเพียงแค่นี้  โดยเฉพาะเวลาที่เราแย่หรือรู้สึกเหนื่อยล้า  การพูดชมหรือขอบคุณ เริ่มจากคนรักของคุณ คนในครอบครัว  พวกเขาจะตอบกลับคุณมาด้วยคำพูดดีๆ ความรู้สึกดีๆ  มันเป็นเครื่องมือง่ายๆ ที่คุณทำได้ และยิ่งเราพูดด้านดีๆ บวก  มันจะช่วยสร้างมิตรภาพสายสัมพันธ์ระยะยาวได้ดีเลยทีเดียว เราจะสัมผัสความรู้สึกของผู้อื่นได้  อารมณ์ความรู้สึกของเราจะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน  เราจะเข้าใจถึงพลังความคิดในแง่บวกที่เราจะได้รับ มันจะทำให้เราเป็นคนที่น่าคบน่าพูดด้วยทันที 


หลายคนมักชอบพูดแต่เรื่องที่ตัวเองสนใจ  เราลองมาเปลี่ยนวิธีการพูด โดยมาพูดคุยเรื่องที่คนอื่นสนใจและเรื่องที่สำคัญในชีวิตของคนๆ นั้น หรือผู้อื่นที่เราสนทนาด้วยแทน เช่น เพื่อนของเรารักพ่อแม่มาก  เราลองเปลี่ยนมาชมเขาและพูดเกี่ยวกับเขาที่น่าภาคภูมิใจเรื่องดีๆ ของเขา  ชมเขา คำพูดเกี่ยวกับความสนใจของเขา มันจะทำให้เขาชอบคุณมากขึ้น

4.  สร้างความประทับใจด้วยรอยยิ้มและใส่ใจในตัวผู้อื่น



การสร้างความประใจด้วยรอยยิ้มเป็นการแสดงออกง่ายๆ สร้างมิตรความสัมพันธ์ได้ดี  สร้างความประทับใจด้วยรอยยิ้ม การยิ้มเป็นการแสดงออกว่าเราชอบคนๆ นั้น ทำให้น่าคบและดูเป็นมิตร การยิ้มจากใจจะช่วยดึงดูดคนอื่นๆ เข้าหาเรา

ผู้เขียนเองก็ชอบยิ้ม  การที่เรายิ้มเราจะรู้สึกดี  เมื่อมีคนยิ้มให้เรา เราก็มักจะรู้สึกชอบคนๆ นั้นทันที การยิ้มเป็นการแสดงออกว่ามีความสุข และเมื่อเรามีความสุข คนอื่นๆ ก็มักจะรู้สึกมีความสุขไปกับเราด้วย 

และการรู้จักใส่ใจในตัวผู้อื่น มันจะทำให้เราเป็นคนที่น่าสนใจดึงดูด และผู้คนมักจะให้ความร่วมมือกับเรา  หากเราจำชื่อ และรายละเอียดของคนที่เพิ่งรู้จักได้  เขาจะประทับใจในตัวเรามาก  เมื่อมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง มันจะทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ 

5   เป็นผู้ฟังที่ดี  การหยุดพูดบ้าง เปิดโอกาสให้ผู้อื่นพูด  ตั้งใจฟัง


หาเราชอบที่จะเป็นฝ่ายพูดและไม่ชอบที่จะทนฟังความคิดเห็นของคนอื่น  หากเราชอบที่จะพูดถึงตัวเอง รู้สึกยินดีที่ได้แชร์สิ่งที่สนใจ  การที่เราจะเอาชนะใจคนอื่นได้  การเป็นผู้ฟังที่ดี การรู้จักตั้งใจฟัง หยุดพูดแล้วปล่อยให้ผู้อื่นเป็นฝ่ายพูดบ้าง เราจะได้รับประโยชน์จากการตั้งใจฟังอย่างมาก    

การหยุดพูด ตั้งใจฟัง  เป็นการแสดงออกถึงความสนใจสิ่งที่เขาพูด   และผู้พูดจะแสดงออกกลับมา ด้วยความรู้สึกสบายใจที่จะเล่าเรื่องราว เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงออกทางอารมณ์ด้านดีๆ ได้ง่ายขึ้น

ผู้อ่านอยากให้ผู้อื่น ทดสองตามบทความนี้ดู  โดยเริ่มเปลี่ยนจากที่เราเป็นคนชอบพูดไม่ชอบฟัง และเปลี่ยนมาเป็นผู้ฟังดูบ้าง ลองสังเกตมันจะทำให้คนอื่นชอบเรามากขึ้น

นี่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในกระบวนการพัฒนา ไม่ว่าคุณต้องการอะไร คุณต้องผลักดันตัวเองเพื่อพัฒนาทักษะปัจจุบันของคุณและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณเติบโต จำไว้ว่าคุณไม่สามารถทำได้ดีกว่านี้ ก่อนที่คุณจะเชี่ยวชาญทักษะที่จำเป็นในการไปถึงที่นั่น

ผู้เขียนขอนำเคล็ดลับพัฒนาตัวเอง สู่ความสำเร็จ   วิธีชนะมิตรและจูงใจคน จากหลักคิด ของ เดล คาร์เนกี  ซึ่งเรามารู้จักประวัติของเขาสักเล็กน้อย  เขาเป็นนักเขียนและอาจารย์ชาวอเมริกัน หลายคนรู้จักในนามนักเขียนและวิทยาการที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในอเมริกันและทั่วโลก  หนังสือของเขาเป็นที่รู้จักมาก โดยเนื้อหาเป็นแนวการพัฒนาตนเอง, ผลงานการเขียนของเขาที่เป็นที่รู้จักได้แก่ วิธีชนะมิตรและจูงใจคน (1936) ซึ่งเป็นหนังสือขายดีที่สุดของเขาวิธีชนะทุกข์และสร้างสุข (1948), ลินคอล์น มหาบุรุษ (1932) และหนังสืออื่น ๆ หากหลายเล่ม 

7  เคล็ดลับในการพัฒนาตัวเองไว้ โดย Dale Carnegie


ความลับที่ 1: มีเพียงคุณเท่านั้น ที่สามารถดูแลการพัฒนาตัวคุณเองได้


การดูแลการพัฒนาตัวเองของคุณขึ้นอยู่กับคุณแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีใครช่วยคุณได้ และไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของคนอื่นที่จะสามารถทำได้สำหรับคุณ ความทะเยอทะยาน ความตั้งใจ และพลังในการเปลี่ยนแปลงตัวเองล้วนมาจากภายในของคุณเอง ดังนั้น คุณจงมุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายของคุณและอย่าไปฟุ้งซ่านจากผู้อื่น ในทำนองเดียวกัน คุณไม่สามารถเปลี่ยนใครได้อีก นอกจากตัวคุณเอง ฉะนั้น จากเนื้อหานี้ ให้เริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อนคะ คือการพัฒนาตัวเราเองด้วยความตั้งใจนั้นเองคะ


ความลับ 2: การพัฒนาเป็นบทบาทหน้าที่ของตัวคุณเอง เป็นกระบวนการส่วนบุคคล


เช่นเดียวกับที่แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่มี "กระบวนการ" ที่เป็นมาตรฐานสำหรับการพัฒนาตนเอง พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีรูปร่างที่ดีขึ้นในปัจจุบัน แทนที่จะพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนอื่น จำถ้อยคำเหล่านี้จาก Jean-Jacques Rousseau ไว้ว่า ฉันไม่ได้ถูกสร้างมาเหมือนคนอื่นอย่างที่ฉันเห็น ฉันกล้าที่จะเชื่อว่าฉันไม่ได้ถูกสร้างมาเหมือนใครคนที่มีอยู่จริงในโลกนี้ ถ้าฉันไม่ดีขึ้น อย่างน้อยฉันก็แตกต่าง

เคล็ดลับ 3: ความสำเร็จมักเกิดขึ้นในที่ที่คุณคาดไม่ถึง

บางครั้ง ไม่ว่าคุณจะพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องมากแค่ไหน สิ่งต่างๆ ก็ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้ แต่การทำงานอย่างต่อเนื่องในบางสิ่งมักจะได้ผลในที่สุด หากคุณล้มเหลวในตอนแรก อย่าท้อแท้ ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ด้วยการพยายามอย่างต่อเนื่อง และมักเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่คาดคิด


ความลับที่ 4: โฟกัสจดจ่อกับสิ่งเล็กน้อยรอบตัวคุณ ไม่ใช่แค่สร้างภาพที่ใหญ่

การเปลี่ยนนิสัยในแต่ละวันของคุณสามารถไปได้ไกลในการพัฒนาในฐานะตัวคุณเอง ส่วนบุคคลของคุณ ไม่ว่าคุณจะทำการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในทัศนคติ เป้าหมาย หรือคนรอบตัวคุณ การเปลี่ยนแปลงทีละวันจะเป็นวิธีการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ การทำสิ่งเล็กๆ อย่างช้าๆ อาจดูน่าหงุดหงิด แต่คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนก็ทำแบบเดียวกัน ใส่ใจกับสิ่งเล็กน้อยและคุณจะพบว่าตัวเองก้าวหน้า


เคล็ดลับที่ 5: การพัฒนาทักษะการฟังจะทำให้คุณเป็นนักสื่อสารที่ดียิ่งขึ้น


วิธีที่คุณสื่อสารกับผู้อื่นมีผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์และการโต้ตอบของคุณ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่รวมถึงการพูดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฟังด้วย ยิ่งคุณฟังมากเท่าไหร่ คุณก็จะสื่อสารได้ดีขึ้นเท่านั้น การฟังก่อนพูดยังช่วยให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น และจะช่วยให้คุณเข้าใจและจูงใจผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น


เคล็ดลับที่ 6: อย่าหยุดเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และฝึกฝนทักษะพื้นฐาน


นี่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในกระบวนการพัฒนา ไม่ว่าคุณต้องการอะไร คุณต้องผลักดันตัวเองเพื่อพัฒนาทักษะปัจจุบันของคุณและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณเติบโต จำไว้ว่าคุณไม่สามารถทำได้ดีกว่านี้ ก่อนที่คุณจะเชี่ยวชาญทักษะที่จำเป็นในการไปถึงที่นั่น

เคล็ดลับ 7: ความสำเร็จเริ่มต้นด้วยความล้มเหลวและเป็นกระบวนการ "ลองผิดลองถูก"

แม้ว่าคุณจะปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ แต่จำไว้ว่าไม่ใช่นักผจญภัยทุกคนที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางได้ สถานการณ์กรณีที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น และเป็นความคิดที่ฉลาดเสมอที่จะเตรียมพร้อมสำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุด เพียงจำไว้ว่าคุณจะเรียนรู้และเติบโตจากสถานการณ์เหล่านี้ และคุณควรพยายามต่อไป


ท้ายนี้  ผู้เขียนขอสรุปบทความนี้ว่า หากเราจะจูงใจผู้อื่น สร้างมิตรภาพดี สิ่งที่สำคัญเราต้องเอาชนะใจตัวเอง เมื่อไรเราชนะใจตัวเองได้ เราย่อมเอาชนะใจผู้อื่นได้  ฉะนั้น เราต้องฝึกจากตัวเราก่อน ฝึกมีสติในชีวิตประจำวัน  หากเรามีสติ  เรายอมรู้ทันสถานการณ์ใดๆ ที่เข้ามา เราย่อมรับมือผู้อื่นและเอาชนะใจผู้คนได้คะ

ผู้เขียน หวังว่าบทความนี้  จะเป็นเครื่องมือช่วยในการรับมือเอาชนะใจและโน้มน้าวจิตใจผู้คนได้ สร้างความสำเร็จในชีวิตให้แก่ผู้อ่านทุกท่านนะคะ 

ภาพปก และภาพประกอบปก ลำดับที่ 1-3  จาก MattMcWilliams.com : จาก www.quotemaster.org  โดย ภาพที่ 1  : ภาพที่ 2  : ภาพที่ 3 

ภาพประกอบ 7 เคล็ดลับ โดย MattMcWilliams.com


ออกแบบตกแต่งปกและภาพประกอบข้อ 1-5 ทั้งหมด โดย : canva   



Ami Amornrat  ผู้เขียนบทความ


สามารถติดตามบทความต่อไปได้คะ  

ติดตามผลงานเขียน คอร์สออนไลน์ ซื้อสินค้า ได้ที่นี่คะ  <<<คลิก>>>  


ติดตามงานเขียน ฉบับภาษาอังกฤษ ที่  Amazon   ที่นี่คะ    <<คลิก >>


ติดตามงานเขียน ไทยและอังกฤษที่  Google    ที่นี่คะ  <<คลิก>>


ติดตามเพจ Facebook  ผลงานอื่นๆ ที่นี่คะ  <<คลิก >> 








ความคิดเห็น

ฮอต

7 วิธีแก้กรรม โดยแนวคิด Deepak Chopra กฎแห่งกรรม คืออะไร เราเกิดมามีกรรมจริงหรือ ?

รีวิว ละครดัง “พรหมลิขิต” กระแสเทรนอันดับ 1 ใน Twitter